🍉Friday 27th March 2020🍉
🌈⛄ความรู้ที่ได้รับ🌈⛄
🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻
🏠⛔🔊เรียนออนไลน์ ทางแอพ ZOOM🏠⛔🔊
🌷🌹ทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์กับความคิดสร้างสรรค์🌷🌹
🌷🌹กระบวนการคิดเป็นกระบวนการทางปัญญา🌷🌹
- สืบเสาะหาความรู้มีวิธีการอย่างมีระบบในขณะปฏิบัติการย่อมต้องใช้ความคิด ควบคู่ไปด้วย
- ผลคือพัฒนาการทางสติปัญญสามารถแก้ปัญหา ค้นหาและแสวงหาความรู้ใหม่ๆ อย่างมีประสิทธิภาพน่าเชื่อถือ
🌷🌹ทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์🌷🌹
1. ทักษะการสังเกต
2. ทักษะการจำแนกประเภท
3. ทักษะการสื่อความหมาย
4. ทักษะการแสดงปริมาณ
5. ทักษะการทดลอง
🌷🌹การจัดประสบการณ์ที่เน้นทักษะกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตร์เชิงสร้างสรรค์ 🌷🌹
1ให้เด็กสังเกต สิ่งที่สนใจสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่นตัวหนอนแล้วเดินออกมาบอกครูและครูไม่ควรคิดว่าเด็กกำลังสนใจสิ่งสกปรก
แต่ครูควรแนะนำหรือให้เด็กฝึกสังเกต โดยถามว่า ตัวหนอนมีลักษณะอย่างไร เป็นต้น
2. สร้างความชัดเจนและมั่นใจว่าวิทยาศาสตร์เหมาะสำหรับเด็กทุกคน ไม่ใช่สำหรับเด็กบางคน
ครูมีหน้าที่กระตุ้นให้เด็กทุกคนสนใจวิทยาศาสตร์ไม่ว่าเด็กจะเรียนเร็วหรือช้าให้เด็กเห็นว่าวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและสนุก
3. สื่อสารวิธีการช่วยให้เด็กเรียนรู้วิทยาศาสตร์กับผู้ปกครอง เพราะผู้ปกครองสำคัญยิ่งที่จะช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยครูคอยแนะนำ
เช่นบอกว่ากิจกรรมที่เด็กทำนั้นเป็นการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องอะไรและให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการส่งเสริมกิจกรรมแก่เด็ก
4. ปลูกฝังและจัดประสบการณ์ให้เด็กเห็นว่าวิทยาศาสตร์ เป็นเรื่องสนุกและน่าสนใจ โดยครูตั้งคำถาม เช่น ต้นไม้เป็นสิ่งมีชีวิตมันต้องการอะไรบ้าง
จะเริ่มคิดว่าต้นไม้ต้องการอะไรบ้าง หรือให้เด็กทดลองโดยการเพาะหรือปลูกต้นไม้
แล้วให้เด็กสังเกตการเปลี่ยนแปลงการเจริญเติบโต ประสบการณ์การทดลองทำให้เด็กตื่นเต้นและสนใจอยากจะเรียนรู้และร่วมกิจกรรม
5. สร้างความมั่นใจว่าตนเองมีค่า มีความสามารถและฝึกให้เด็กรู้จักวิธีค้นหาคำตอบด้วยตนเอง
เช่น สังเกตว่าทำไมไม้ จึงลอยน้ำ ทำไมเกลือจึงลอยน้ำ สร้างความรู้สึกอยากค้นพบและอยากหาเหตุผล
🌷🌹บทบาทครูกับการจัดประสบการณ์ที่เน้น
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์🌷🌹
1.หาข้อมูลพื้นฐานว่าเด็กแต่ละคนมีความรู้เบื้องต้นแค่ไหน เพราะแต่ ละคนมี พื้นฐานไม่เหมือนกัน
2. เตรียมประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์และเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมกับเด็กเป็นกิจกรรมที่ไม่ต้องระวังมากและเด็กทำ
กิจกรรมเต็มที่ด้วยตนเอง เช่น ไม่คอยบอกเด็กว่าหนูอย่าจับเดี่ยวของครูแตก
3. จัดสภาพสิ่งแวดล้อมในห้องเรียน (จัดมุมหรือศูนย์วิทยาศาสตร์) โดยการคำนึงว่าจัดอย่างไรให้เด็กอยากเข้าไปเล่นในมุมนั้นๆ
การที่เด็กเข้าไปเล่นคลุกคลีอยู่ในมุมบ่อยๆ ครูก็ควรจะมีการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆในมุมด้วย
4. แนะนำวัสดุอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ เพื่อให้เด็กสนใจหรืออยากเข้ามาจับต้อง
🌷🌹ตัวอย่างกิจกรรมวิทยาศาสตร์🌷🌹
ชื่อกิจกรรม เป่าให้ลอย
ความคิดรวบยอด อากาศต้องการที่อยู่ ฟองสบู่มีอากาศอยู่ข้างในจึง ลอยได้
วัตถุประสงค์
1. เด็กเป่าฟองสบู่ ให้เป็นลูกโป่งแบบต่างๆจากอุปกรณ์ที่ กำหนดให้ได้
2. เด็กบอกชื่อฟองสบู่ที่เป่าให้แปลกๆแตกต่างจากคนอื่น ได้
สื่อและอุปกรณ์
สบู่เหลว 5 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า 3 ลิตร หลอดกาแฟ ก้าน ผักบุ้งที่เป่าฟองสบู่
การจัดกิจกรรม
1. เด็กและครูร่วมกันแนะนำกิจกรรมและอุปกรณ์ 2. เด็กนำน้ำสบู่มาเป่าโดยครูใช้คำถาม ดังนี้
- จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราเป่าลงไปในน้ำสบู่ลูกโป่งฟองสบู่มีลักษณะอย่างไร
- เด็กคิดว่าอะไรอยู่ในลูกโป่งฟองสบู่” “เด็กคิดว่าลูกโป่ง ฟองสบู่จะแตกหรือไม่”
- เด็กๆทำให้ลูกโป่งอยู่นานๆได้อย่างไร” “เด็กเป่า ฟองสบู่ได้กี่ลูก”
- “ลองเล่าเกี่ยวกับลูกโป่งฟองสบู่ให้ครูฟังซิ”
- “มีอะไรบ้างที่เป่าอากาศเข้าไปแล้วมีขนาดใหญ่ขึ้น”
3. เด็กนำเสนอประสบการณ์ โดยเล่าเกี่ยวกับการเป่า ลูกโป่งฟองสบู่ โดยครูบันทึกคำบอกเล่าลงใน กระดาษแผ่นใหญ่
4. ส่งเสริมให้เด็กวาดภาพลูกโป่งฟองสบู่ตามจินตนาการ
5. ทำลูกโป่งให้มีรูปร่างต่างๆจากวัสดุอื่น เช่น ถุง พลาสติก
👑📷กิจกรรม👑📷
อาจารย์มอบหมายงานคู่
สมาชิก
นางสาวทิพยวิมล นวลอ่อน รหัสนักศึกษา 5911200227 เลขที่ 1
นางสาวจีรนันท์ ไชยชาย รหัสนักศึกษา 5911200383 เลขที่ 7
🍃กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์🍃
ชื่อกิจกรรมการเรียนรู้ : กาลักน้ำ
ความคิดรวบยอด เด็กเข้าใจการเปลี่ยนแปลงแรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลของของเหลว
ดูดกันลงมาด้วยน้ำหนักของของเหลวภายในสายยาง คือ น้ำ เมื่อของเหลวที่ปลายด้านหนึ่งไหลต่ำลงมาก็จะเกิดแรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลของของเหลว ทำให้ของเหลวจากปลายสายยางด้านที่สูงกว่าไหลตามกันลงมา
จุดประสงค์หลักของกิจกรรม
1. เด็กคิดค้นวิธีเล่นกาลักน้ำจากอุปกรณ์ที่กำหนดไว้ได้
2.
เด็กพลิกแพลงการเล่นกาลักน้ำจากอุปกรณ์ที่กำหนดไว้ได้
3. เด็กตอบคำถามมากกว่าคำตอบเดียวได้
วัสดุอุปกรณ์
-
กะละมัง 2 ใบ
-
ขาตั้งต่างระดับ 2
อัน
-
น้ำ
-
สายยาง
ลำดับการจัดกิจกรรม
1. เด็กและครูร่วมกันแนะนำกิจกรรมและอุปกรณ์
โดยครูนําอุปกรณ์ทั้งหมดมาให้เด็กสังเกต แล้วถามคำถามว่า “จากอุปกรณ์ต่างๆที่เด็กๆสังเกตเห็น
เด็กๆคิดว่าเราจะทำอุปกรณ์พวกนี้มาทำอะไรกัน”
2. เด็กทดลองเล่นกาลักน้ำ โดยครูใช้คำถาม
ดังนี้
-
เด็กๆจะนำอุปกรณ์ที่มีอยู่เล่นกาลักน้ำได้อย่างไร
-
เพราะเหตุใดกะละมังทั้ง 2 ใบ จึงวางสูง ต่ำ ไม่เท่ากัน
-
ทำไมน้ำจึงไหลจากกะละมังใบที่อยู่สูงกว่ามาสู่กะละมังใบที่ต่ำกว่า
-
เด็กจะใช้อะไรทำกาลักน้ำ นอกจากอุปกรณ์ที่มีอยู่
-
เด็กๆเคยเห็นน้ำไหลจากที่สูงมาสู่ที่ต่ำจากที่ใดบ้าง
3. เด็กนำเสนอประสบการณ์
โดยเล่าเกี่ยวกับการเล่นกาลักน้ำ และครูบันทึกลงในกระดาษ
4. เด็กและครูร่วมกันสรุปองค์ความรู้ที่ได้รับ
การวัดและประเมินผล
สังเกตจากพฤติกรรมที่แสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์
ดังนี้
1.
ความคิดริเริ่ม
สังเกตจากการคิดค้นหาวิธีเล่นกาลักน้ำ
2. ความคิดคล่องแคล่ว
สังเกตจากการตอบคำถามได้หลากหลาย และตอบได้ว่องไวโดยไม่รีรอ
3. ความคิดยืดหยุ่น
สังเกตจากการนำอุปกรณ์มาประยุกต์วิธีเล่นได้หลากหลายวิธี
4.ความคิดละเอียดลออ
สังเกตจากการอธิบาย
การตอบคำถามให้ชัดเจน สมบูรณ์ขึ้น
🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪
💛Assessment💛
👩Self - Assessment of student 👩
- เข้าเรียนตรงเวลา
-ตั้งใจทำกิจกรรมที่อาจารย์มอบหมาย
👯Member Assessment 👯
- เข้าเรียนตรงเวลา
- เพื่อนๆตั้งใจเรียนและทำกิจกรรมที่อาจารย์มอบหมาย
👵Teacher Assessment 👵
- อาจารย์อธิบายงานและสอนอย่างเข้าใจง่าย
- สอนตรงต่อเวลา
🍁🍁🍁🍁🍁🍁🍁🍁🍁🍁🍁🍁🍁🍁🍁🍁🍁🍁🍁